วิธีใช้แอร์ ให้ประหยัดไฟ

    

        ประเทศไทยเป็นเมืองร้อนเราจึงมักต้องดิ้นรนหาวิธีต่างๆเพื่อมาทำให้คลายร้อน  ยิ่งทุกวันนี้ชั้นโอโซนนั้นโดนทำลายไปมากมายหลายเท่าจากเดิม ถ้าเปรียบเป็นผ้ากรองก็คงมีรูพรุนนับไม่ถ้วน นั่นเป็นสาเหตุให้การกรองรังสีต่างๆที่พุ่งตรงมายังโลกน้อยลงตามไปด้วย  ความร้อนที่เราได้รับก็จะมากขึ้นไปด้วยเป็นเงาตามตัว ประกอบกับการที่บริเวณที่เราพักอาศัยนั้นส่วนใหญ่มักจะรายล้อมไปด้วยแหล่งสร้างความร้อนต่างๆมากมาย
 ไม่ว่าจะเป็นการหุงต้มจากครัวเรือน ความร้อนจากควันรถยนต์ หรือแม้กระทั่งจากโรงงานต่างๆ  บ้านเราจึงกลายเป็นเหมือนศูนย์รวมความร้อนแบบครบวงจรยังไงอย่างนั้น และทางลัดง่ายๆที่เราจะหนีจากความร้อนได้ก็คือ แอร์คอนดิชั่น  สิ่งที่จะขับไล่ความร้อนได้อย่างรวดเร็วทันใจ  แต่ก็ทำให้เงินในกระเป๋าของเราไหลออกไปได้อย่างรวดเร็วทันตาเช่นกัน  หากเราเป็นเศรษฐีมีเงินใช้จ่ายเหลือเฟือผลกระทบคงไม่มากเท่าไรนัก แต่สำหรับมนุษย์เงินเดือนผู้มีรายได้กับรายจ่ายแทบจะสมดุลกันในหนึ่งเดือนแล้ว การประหยัดรายจ่ายลงหรือการมีค่าใช้จ่ายบางอย่างเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยก็อาจจะมีส่งกระทบต่อสมดุลนั้นได้  เพราะฉะนั้นแล้วเมื่อเราเลือกแอร์มาใช้ให้เย็นกายแล้วทำอย่างไรเราจึงจะมีวิธีจ่ายค่าไฟให้เย็นใจควบคู่กันไปด้วย   


   วิธีใช้แอร์  ให้ประหยัดไฟ       


1.เปิดเครื่องปรับอากาศที่ 25 องศา  เป็นอุณหภูมิที่เหมาะสมที่สุดที่จะทำให้ร่างกายเรารู้สึกสบาย และที่สำคัญคือไม่ทำให้คอมเพรสเซอร์ทำงานหนักเกินไป นอกจากจะช่วยเรื่องการประหยัดไฟแล้วยังช่วยยืดอายุการใช้งานได้อีกทางหนึ่ง  และการปรับอุณหภูมิเพิ่มขึ้นทุกๆ 1 องศา ก็ช่วยให้เราประหยัดค่าไฟได้ถึง 10 %

2.การตั้งเวลาปิดแอร์เวลานอน  นั้นปัจจุบันจะมีระบบตั้งเวลา เราควรตั้งเวลาทิ้งไว้ประมาณ 1-2 ชั่วโมง  หลังจากนั้นให้ปิดโดยอัตโนมัติเพื่อให้เราได้หลับสบายและอุณหภูมิจะยังคงเย็นอยู่ช่วงระยะหนึ่งหลังจากนั้น  ประกอบกับอากาศภายนอกในเวลากลางคืนนั้นยิ่งดึกอากาศก็ยิ่งเย็นลง  อย่างไรก็ตามเราควรเปิดพัดลมควบคู่ไปด้วยเพื่อให้อากาศหมุนเวียนและเราจะได้หลับสบายทั้งคืน  อย่างไรค่าไฟจากพัดลมเมือเทียบกับค่าไฟจากการเปิดแอร์ทั้งคืนนั้นคงจะแตกต่างกันอย่างลิบลับ

3.การปิดแอร์ก่อนออกจากห้อง  30นาที ถึง 1 ชั่วโมง  จะเป็นการประหยัดได้อีกทางหนึ่งเพราะความเย็นในห้องยังจะคงอยู่ และหากคิดรวมค่าไฟใน 1 เดือน จะเห็นได้ว่าช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าเราได้อีกเป็นกอง

4.ปิดประตูหน้าต่างให้สนิท  เพราะความร้อนและความชื้นจากภายนอก จะมีผลอย่างมากในการทำให้เครื่องปรับอากาศทำงานหนักยิ่งขึ้น เพราะระบบจะต้องทำงานจนกระทั่งสามารถรักษาอุณหภูมิและความชื้นภายในห้องให้ได้ตามที่เรากำหนดไว้  เพราะฉะนั้นการที่เราช่วยป้องกันไม่ให้สิ่งเหล่านั้นแทรกซึมเข้ามาในห้องได้โดยง่ายก็จะช่วยเป็นการลดภาระการทำงานของแอร์ได้เป็นอย่างดี

5.ไม่ควรนำของร้อนเข้าห้อง  เช่น การรีดผ้าในห้องหรือเครื่องทำครัวต่างๆที่มีความร้อน  เพราะจะทำให้เพิ่มภาระของแอร์มากขึ้น

6.ไม่ควรนำสิ่งที่มีความชื้นเข้าห้อง  เช่น  ไม่ควรปลูกต้นไม้หรือตากผ้าในห้อง  เพราะจะทำให้แอร์ต้องเพิ่มภาระในการกำจัดความชื้นภายในห้อง  ซึ่งจะเป็นการสูญเสียพลังงานโดยไม่นำเป็น

7.กันความร้อนให้กับคอนเดนเซอร์  คอนเดนเซอร์คือคอล์ยร้อนที่ตั้งอยู่ด้านนอกอาคารเพื่อที่จะทำหน้าที่ระบายความร้อน  ส่วนที่อยู่ในห้องนั้นเรียกว่า อีวาพอร์เรเตอร์ หรือคอล์ยเย็น  เป็นตัวที่จะดูดความร้อนจากภายในห้องออกไป  โดยตรงนี้เราจะโฟกัสไปที่คอล์ยร้อนหรือคอนเดนเซอร์เพราะมีส่วนอย่างมากในการที่จะเพิ่มหรือประหยัดค่าไฟ  เนื่องจากว่าหากคอล์ยร้อนสามารถระบายความร้อนได้ดีก็จะทำให้การทำงานของระบบมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นและการใช้พลังงานก็จะน้อยลง  ซึ่งการที่อุณหภูมิโดยรอบคอล์ยร้อนยิ่งต่ำเท่าไหร่ยิ่งเป็นผลดีต่อการระบายความร้อน  เพราะฉะนั้นการติดตั้งที่ดีจึงไม่ควรให้อยู่ในตำแหน่งที่โดนแดด หรือหากหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็ควรสร้างร่มเงาให้กับคอนเดนเซอร์ เช่น การทำที่บังแดดหรือปลูกต้นไม้เพื่อให้ร่มเงา เพียงเท่านี้ก็จะช่วยให้ประหยัดไฟได้มากขึ้นอีกส่วนหนึ่ง


8.ล้างเครื่องปรับอากาศ  ควรจะมีการการล้างเครื่องปรับอากาศโดยช่างผู้ชำนาญปีละ 1 ครั้ง  จะช่วยยืดอายุการใช้งานและประหยัดค่าไฟได้ถึง 10 %  ปกติแล้วหลักการทำงานหลักๆของแอร์คือการถ่ายเทความร้อน-เย็น  เพราะฉะนั้นการทำความสะอาดอุปกรณ์ต่างๆจะช่วยให้การถ่ายเทอุณหภูมิทำใด้ดียิ่งขึ้นและจะเป็นการการลดภาระการทำงานของระบบได้เป็นอย่างดี