“ต้นมะลิ”

มะลิเป็นไม้มงคลที่สูงค่าจึงนิยมใช้บูชาพระ  สีขาวอันบริสุทธิ์ มีกลิ่นหอมเย็นไม่ว่าจะเป็นมะละซ้อนหรือมะลิลา ส่งเสริมสิริมงคลทางด้านทำให้คนในบ้านมีความรักใคร่กลมเกลียว และนำมาใช้เป็นดอกไม้สัญลักษณ์ วันแม่ เพราะดอกมะลิเปรียบเสมือนความรักอันบริสุทธิ์ของแม่ที่มีให้ลูกน้อยไม่มีวันเสื่อมคลาย
ลักษณะของต้นมะลิ
เป็นไม้พุ่มขนาดเล็กถึงขนาดกลาง เป็นทรงพุ่ม มีใบแน่น มีความสูงประมาณ 5 ฟุต แตกกิ่งก้านรอบ ๆ ลำต้น ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการปักชำ และการตอนกิ่ง เจริญเติบโตได้ดีในดินร่วนซุย ชอบแสงแดดจัด
ดอกมะลิ ออกดอกตามซอกใบและปลายกิ่ง ลักษณะของดอก ดอกซ้อนเราจะเรียกว่า มะลิซ้อนส่วนดอกที่ไม่ซ้อนจะเรียกว่า มะลิลาโดยทั้งสองชนิดจะเป็นดอกสีขาวและมีกลิ่นหอม ซึ่งดอกมะลิลาจะมีกลิ่นหอมมากกว่าดอกมะลิซ้อน
วิธีการปลูกและดูแลดอกมะลิ
  -
ดินร่วนซุยมีการระบายน้ำดี                       
  -
มีความเป็นกรด-ด่าง 5.5-6.5
  -
มีอินทรีย์วัตถุและธาตุอาหารสมบูรณ์                     
  -
ได้รับแสงแดดเต็มที่
  -
เตรียม ทรายผสมขี้เถ้าแกลบ อัตราส่วน 1:1 บรรจุในภาชนะ แล้วรดน้ำให้ชุ่ม
 -
นำกิ่งพันธุ์มะลิปักชำลงในแปลงชำ ให้มีระยะระหว่างแถว และกิ่ง 2x2 นิ้ว 
          รดน้ำและสารป้องกันกำจัดเชื้อรา รักษาความชื้นให้เหมาะสม
  - หลังจากที่กิ่งปักชำออกรากแล้วให้ย้ายลงปลูกในถุง โดยใส่ดิน ใส่ขุยมะพร้าว
           และใส่ปุ๋ยคอกอัตรา 3:1:1 จนต้นมะลิแข็งแรงดีแล้วจึงนำไปปลูก
  - การปลูกนิยมปลูกในช่วงฤดูฝน เดือน มิถุนายน-กรกฎาคม
  -
ขุดหลุมให้ลึก กว้าง และยาวด้านละ 50 ซม.
  -
ใส่ปุ๋ยคอก คลุกให้เข้ากันกับดิน ทิ้งไว้ 7-10 วัน จึงนำต้นมะลิลงปลูก
  -
การตัดแต่ง หลังจากปลูกมะลิไปนาน ๆ แล้ว เพราะมะลิจะแตกกิ่งก้านมากมาย
              ควรตัดแต่งทรงพุ่มให้โปร่งอยู่เสมอ  
  - การให้น้ำ มะลิจะต้องการน้ำพอสมควร อาจให้น้ำวันละ 1ครั้ง หรือ สัปดาห์ละครั้งก็ได้ขึ้นอยู่กับสภาพของดิน โดยให้รดน้ำในตอนเช้า แต่ระวังอย่าให้น้ำท่วม หรือ มีน้ำขังอยู่ที่ดินเป็นเวลานาน เพราะจะทำให้ต้นมะลิแคระแกร็น ใบเหลือง และตายได้